รูปแบบของรายการวีดิทัศน์
1. รูปแบบพูดคนเดียว (Monologue Program Format) เป็นรายการที่ผู้ปรากฏตัวพูดคุยกับผู้ชมเพียงหนึ่งคน
ส่วนมากจะมีภาพประกอบเพื่อมิให้เห็นหน้าผู้พูดอยู่ตลอดเวลา
ผู้ที่มาบรรยายควรเป็นผู้ที่มีความสามารถ
และเชี่ยวชาญในเนื้อหาที่จะพูดเพื่อให้ผู้ชมสนใจ
2. รูปแบบสนทนา (Dialogue
Program format) เป็นรายการที่ผู้ดำเนินการอภิปราย 1 คน และมีผู้ร่วมอภิปรายตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมาสนทนาพูดคุยกนถึงเรื่องราวต่างๆ
มีการถามคำถามสนทนากัน แสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ดำเนินรายการ ใครจะพูดก่อนพูดหลัง
หรือจะพูดเสริมกันได้ตามแต่ผู้ออกรายการจะเห็นสมควร
3. รูปแบบอภิปราย (Discussion Program format) เป็นรายการที่ผู้ดำเนินรายการอภิปรายหนึ่งคนปูประเด็นคำถามให้ผู้ร่วมอภิปรายตั้งแต่
2 คนขึ้นไป
แต่ไม่ควรเกิน 4 คน
ผู้อภิปรายแต่ละคนจะแสดงความคิดเห็นของตนเองต่อประเด็นต่าง ๆ
4. รูปแบบสัมภาษณ์ (Interview Program format) เป็นรายการที่มีผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์
คือ วิทยากรและพิธีกรมาสนทนากัน
5. รูปแบบเกมหรือตอบปัญหา
(Quiz Program format) มักเป็นรายการบันเทิงเป็นส่วนใหญ่
โดยให้ผู้ชมทางบ้านเล่นเกมแข่งขันกนตามที่ผู้จัดกำหนดให้ หรือตอบปัญหาต่าง ๆ
รายการ ประเภทนี้ นอกจากจะได้รับความสนุกสนานแล้วยังได้รับความรู้ไปด้วย
6. รูปแบบสารคดี (Documentary Program format) เป็นรายการที่เสนอเนื้อหาด้วยภาพและเสียงบรรยายตลอดรายการโดยไม่มีพิธีการ
ซึ่งเป็นรูปแบบรายการที่ให้ทั้งความรู้ ความเพลิดเพลิน เร้าอารมณ์
และโน้มน้าวจิตใจ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
6.1 สารคดีเต็มรูป เป็นการดำเนินเรื่องด้วยภาพและเนื้อหาตลอดรายการ
6.2 กึ่งสารคดีกึ่งพูดคนเดียว
(Semi Documentary) เป็นรายการที่มีผู้ดำเนินรายการทำหน้าที่เดินเรื่องพูดคุยกับผู้ชมและให้เสียงบรรยายตลอดรายการ
นอกนั้นเป็นภาพแสดงเรื่องราวต่างๆ
7. รูปแบบละคร (Dramatically style) เป็นการจัดรายการโดยใช้การแสดงเป็นหลักในการเดินเรื่องให้เหมือนจริงมากที่สุด
อาจจัดฉากขึ้นในสตูดิโอ หรือออกไปถ่ายทำในสถานที่จริง ๆ
ก็ได้ในทางการศึกษาใช้ละครเพื่อจำลองสถานการณ์ชีวิตคนในสังคม
โดยสอดแทรกเนื้อหาไว้ในบทสนทนาและภาพที่ปรากฏโดยผู้ชมไมรู้ตัว มีหลายรูปแบบ
อาจจะเป็นการแสดงละครอย่างเดียวตลอดรายการ
ละครจากวรรณคดีที่ต้องการนำมาเผยแพรวัฒนธรรมและประเพณีไทย
หรืออาจใช้รูปแบบที่มีผู้ดำเนินรายการผสมกับละครด้วยเช่น ใช้ละครนำเรื่อง
ใช้ละครเป็นตัวอย่างเพื่อเป็นตัวเร้าให้เกิดความคิดและนำไปสู่การอภิปราย
ขยายประเด็น หรือสรุปประเด็นจากเรื่องที่ได้พูดถึงไปแล้ว
8. รูปแบบสารละคร
(Docu – Drama Program format) เป็นรายการที่ผสมผสานรูปแบบสารคดีเข้ากับรูปแบบละครหรือการนำละครมาประกอบรายการที่เสนอเนื้อหาบางส่วน
มิใช่เสนอเป็นละครทั้งรายการ เพื่อให้การศึกษาความรู้และแนวคิด
9. รูปแบบสาธิต (Demonstration
Program format) เป็นรายการที่เสนอขั้นตอนในการทำสิ่งต่าง ๆ
ให้ผู้ชมนำไปปฏิบัติหรือทดลองทำด้วยตนเอง เป็นงานฝีมือต่าง ๆช
10. รูปแบบเพลงและดนตรี (Song and Music Program
Format) เป็นรายการเพื่อความบันเทิง โดยนำเสนอการบรรเลงดนตรี และการใช้เพลง มี 4 ลักษณะ คือ
10.1 แบบมีวงดนตรี
และนักร้องมาแสดงสดในสตูดิโอ
10.2 ให้นักร้องมาร้องควบคู่ไปกับเสียงดนตรีที่บันทึกมาแล้ว
10.3 ให้นักร้องและนักดนตรีมาแสดง
แต่ใช้เสียงที่บันทึกมาแล้ว
10.4 แบบมีภาพประกอบ
หรือ Music VDO
11. รูปแบบการถ่ายทอดสด
(Live Program format) เป็นรายการที่ถ่ายทอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในขณะนั้น
12. รูปแบบนิตยสาร (Magazine Program format) หรือรายการแมกกาซีน เป็นรายการที่นำเสนอแบบเดียวกับนิตยสารสื่อสิ่งพิมพ์
13. รูปแบบข่าว (New
Program format) เป็นรายการที่นำเสนอรายงานเหตุการณ์ที่สำคัญเป็นที่สนใจของประชาชน
ลักษณะรายการมีผู้บรรยาย 2-3 คน
และจัดฉากหลังให้สวยงาม เพื่อให้ไม่น่าเบื่อ พร้อมกับเหตุการณ์ที่กำลังรายงาน
14. รูปแบบสถานการณ์จำลอง (Contrived Program format) ส่วนใหญ่ใช้ในการศึกษาเฉพาะกรณี
มีลักษณะสร้างสถานการณ์ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นกรณีตัวอย่างในการศึกษา เช่น
สถานการณ์จำลองการแนะแนว สถานการณ์จำลองการสอน
15. รูปแบบการสอนโดยตรง
(Direct Teaching Program format) เป็นการนำเสนอการสอนของครูแต่ละวิชา
โดยมีผู้เรียนเป็นกลุ่มเป้าหมาย มีวิธีการอยู่ 3 รูปแบบ
15.1 ถ่ายทอดรายการสดด้วยกล้องวงจรปิด
อาจใช้ห้องเรียนขนาดใหญ่หรือถ่ายทอดไปยังห้องต่าง ๆ ในบริเวณใกล้เคียง
ผู้เรียนสามารถเห็นเหตุการณ์ในห้องเรียนปกติ
15.2 ถ่ายทอดออกอากาศไปทางโรงเรียน
หรือสถาบันการศึกษาต่าง ๆ
15.3 บันทึกเทปโทรทัศน์
เป็นการลดข้อบกพร่องในการนำเสนอ
16. รูปแบบโต้วาที
(Debate Program format) เป็นวิธีการพูดแบบโต้วาทีมานำเสนอ
โดยผู้ดำเนินรายการจะต้องตั้งญัตติหรือหัวข้อที่เป็นประโยชน์ และน่าสนใจ มีความสามารถในศิลปะการพูดเพื่อสร้างบรรยากาศ
และประสานฝ่ายเสนอ และฝ่ายค้านให้กลมกลืนไปในทิศทางเดียวกัน
17. รายการปกิณกะบันเทิงหรือวาไรตี้
(Variety Program format) รายการที่รวบรวมความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ
เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้ชอบที่หลากหลาย ซึ่งมีความสนใจในการชมต่างกัน
รูปแบบรายการมีทั้งการแสดงดนตรี ร้องเพลง ละครสั้น เกม สาธิต
สนทนาและสัมภาษณ์ผู้ร่วมรายการ หรือการแสดงอื่น ๆ ในรายการ
มีพิธีกรเป็นผู้ดำเนินรายการและสร้างสีสันให้กับรายการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น